5 เทคนิค ขาย Street food ให้ปัง กำไรพุ่ง ลูกค้าเพียบ!Street Food ธุรกิจที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ โดยอ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า ร้านอาหาร Street Food ในปีที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 1.8 แสนล้าน จนแซงหน้าร้านอาหารแบบ Full Service เป็นที่เรียบร้อย สำหรับการขาย Street Food ไม่ใช่ทุกคนที่สนใจ จะขายแล้วรอด เพราะเศรษฐกิจทุกวันนี้ไม่เอื้ออำนวยกับการลองผิดลองถูกเท่าไร ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มลงมือทำอะไรสักอย่าง จำเป็นตั้งตั้งเป้าหมาย วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ วันนี้เราจึงนำเสนอหัวข้อ 1. จะขายอะไร?สำหรับการเลือกเมนูในร้าน Street Food นั้น อาจพิจารณาจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป หากคุณชอบทำอาหารอยู่แล้ว ลองเลือกเมนูที่ตัวเองถนัด และทำได้ดีที่สุด แล้วถ้าเมนูนั้นคนขายเยอะเต็มไปหมดล่ะ...? ก็ต้อง สร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ให้กับสินค้าของเรานะ ในเรื่องของรสชาติอาหารก็เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้านอยู่แล้ว เราต้องครีเอทสร้างสรรค์เมนูที่เราถนัดให้แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร แต่แค่นี้คงยังไม่พอ ต้องมาดูเรื่องแพ็กเก็ตอาหาร รูปแบบการจัดร้าน รวมถึงเรื่องการตั้งราคาและโปรโมชั่นต่างๆด้วยนะคะ
2. เราจะขายให้ใคร ?เมื่อได้เมนูที่จะขายแล้ว ก็ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะมาซื้ออาหารของเราคือใคร? จะได้หาทำเลการขายได้ตรงจุดกับกลุ่มลูกค้าที่เราเลือกไว้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำยอดขายในแต่ละวันนั่นเองค่ะ และการที่เรารู้จักกลุ่มเป้าหมายของตัวเองดีแล้ว เราก็สามารถปรับเปลี่ยน / เพิ่มเติมเมนู / ตั้งราคาขาย และจัดโปรโมชั่นให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้ ตรงนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้เราได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนการตั้งราคาขาย เรามีมาแนะนำอยู่ 3 เทคนิคด้วยกันค่ะ
- ตามหลักแล้วการตั้งราคาที่มีตัวเลขลงท้ายระหว่าง ต้น-กลาง-หลัง เช่น 1,2,3,4 และ 6,7,8 หากราคาที่ตั้งไว้ มีเลขเหล่านี้ต่อท้าย จะเป็นการยากในการคำนวณราคามากๆ ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ส่วนใหญ่มนุษย์จะคำนวณตัวเลขต่างๆ จากการนำตัวเลข 0 เลข 5 ที่อยู่ท้ายราคามาเป็นหลักการในการรวมราคา - หรืออีกเทคนิคนึงคือการตั้งราคาที่ลงท้ายด้วยเลข 9 ก็ตามหลักตามหลักจิตวิทยาอีกนั่นแหละค่ะ เพราะคนเรามักจะมองตัวเลขด้านหน้าเป็นส่วนใหญ่ ในการประเมินราคาของสินค้า ซึ่งหมายความว่าหากเราตั้งราคาให้เป็นเลข 9 ต่อท้าย จะทำให้เขารู็สึกว่าสินค้าชิ้นนี้มีราคาไม่แพงมาก
วิธีการตั้งราคารูปแบบนี้เหมาะสำหรับการตั้งเป็นโปรโมชั่น จัดเซ็ตอาหาร เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ายอมจ่ายในราคาที่มากกว่าเดิม รู้สึกคุ้มค่ามากกว่าจ่ายแบบซื้อแยก
การตั้งราคาแบบนี้จะเหมาะกับอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีไซส์ให้เลือก แบบ เล็ก กลาง ใหญ่ เทคนิคคือ ควรตั้งในราคาที่ใกล้กัน จะมีโอกาสทำให้ลูกค้าเลือกสั่งในปริมาณที่มากกว่าจากที่ตั้งใจไว้นั่นเองค่ะ
3. จะขายที่ไหน?เมื่อได้เมนูที่จะขาย และ รู้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะขายแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการเลือกทำเลขายนั่นเองค่ะ ตรงนี้อย่าเพิ่งใจร้อน ต้องค่อยๆสำรวจส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยนะ ส่วนนี้หมายถึง ทำเลที่เราจะไปขายน่ะ มีร้านที่ขายเมนูเดียวกับเรา หรือเมนูที่ใกล้เคียงกัน เยอะหรือเปล่า ? ตรงนี้เราควรพิจารณาเรื่อง supply demand ให้อยู่ในระดับที่เหมาะ ยิ่งถ้าเราหาทำเลที่มีลูกค้าเราเยอะและคู่แข่งน้อยเท่าไรก็ยิ่งดี แน่นอนว่าหากขายเมนูเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน ลูกค้าเป้าหมายก็ต้องเป็นกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นเราต้องหาวิธีแบ่งฐานลูกค้า หรือขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มต่างๆ เพิ่มเติม อย่าลืมว่าทุกวันนี้ช่องทางการขายผ่าน Delivery ก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่าละเลยที่เพิ่มยอดขาย ด้วยการขายแบบครบวงจรทั้งที่หน้าร้าน และ Delivery รวมไปถึงสร้างคอนเทนต์ลงสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงการมีอยู่ของร้านเราด้วยนะ
|