"เนยกรอบเจ๊เจียม" เจ้าดังในโคราช ราคาหลักสิบ ยอดขายหลักหมื่น ต่อวัน

เบื้องหลังความอร่อยของเนยกรอบ ที่ทุกคนได้กินแล้วต้องติดใจในความกรอบ ความหอม จนต้องกลับมาซื้อซ้ำ หรือซื้อเป็นของฝาก ออร์เดอร์เข้ารัวๆ ยอดขายวันละ 5 หลัก บทสัมภาษณ์นี้ นอกจากจะรับรู้ถึงความพิถีพิถันในการทำเนยกรอบ ยังได้ความรู้และเทคนิคดีๆจาก ลุงนัน เจ้าของร้าน กับกลยุทธ์การขายอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ ติดตามจากบทความนี้ได้เลยค่ะ

 

เจ๊เจียม ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย

ลุงนัน เจ้าของร้านเนยกรอบได้เล่าว่า ขนมเนยกรอบเป็นความคิดริเริ่มของภรรยา นั่นก็คือ “เจ๊เจียม” เจ้าของสูตรตัวจริง เจ๊เจียมเป็นคนมีทักษะในการคิดค้นทำเมนูอาหารต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ไก่ทอด เนยกรอบ ขนมไข่นกกระทาเจ๊เจียม ฯลฯ แต่ละเมนูลูกค้าต่างติดอก ติดใจ ถามหากันไม่เว้นแต่ละวัน ขายให้ทั้งลูกค้าที่มาเดินตลาด อาร์เอ็นยาร์ด และ พ่อค้า แม่ค้าด้วยกันเอง

 

เนยกรอบเจ๊เจียม พิถีพิถันทุกขั้นตอน

คุณมิ้น ลูกสาวเจ๊เจียม เล่าว่า เคล็ดลับความอร่อยจะเริ่มตั้งแต่การคัดวัตถุดิบ ต้องเน้นเรื่องคุณภาพ จากนั้นจึงนำมาผสมเป็นแป้งสูตรเฉพาะของทางร้าน จะต้องทำการวัด ชั่ง ตวง เพื่อให้ได้มาตรฐานเดิม ซึ่งเมื่อแป้งของสูตรเจ๊เจียมได้สัมผัสกับกระทะ ที่มีความร้อน แป้งก็จะส่งหอม...โชยขึ้นมาเตะจมูกลูกค้า ลูกค้าที่เดินผ่านไปมา ก็จะหันมามองเลย ว่านั่นคืออะไร นั่นก็คือ “เนยกรอบเจ๊เจียม”

“…ความกรอบของขนม มันจะต้องใช้ทักษะของ ความชำนาญของคนทำ ปรับไฟให้พอดี ขนมก็จะกรอบนาน ส่วนตอนแซะเราก็จะทาเนย ราดนม ให้เพิ่มกลิ่นหอม และรสชาติที่ดีขึ้นมา ขนมที่เราทำเสร็จแล้ว เราจะต้องทำการ ผ่าน QC ก่อน อันไหนที่ไม่ดี ที่เราคิดว่าไม่กรอบ หรือไม่สวยเนี่ย เราก็จะคัดออกเลย…”

ราคาหลักสิบยอดขายหลักหมื่นต่อวัน

คุณมิ้นเล่าต่อว่า ปัจจุบันยอดขายวันนึง 5 หลัก ,ใช้แป้ง 50-100 ลิตร , ขายวันละ 300 - 400 ถุง แต่ละถุงจะมีหลายเรท เริ่มต้น  20 บาท 30 บาท ซึ่ง 50 บาท นี่จะเป็นไซซ์ใหญ่ขายดี แล้วก็จัมโบ้ 100.- ตอนนี้ก็ขายดีมากเหมือนกัน ซึ่งราคานี้เราไม่ได้ตั้งเอง ตอนแรกเราขายแค่ 20 บาท แต่ว่าลูกค้าสั่งเองว่า เราจะเอา 30.- / 50.- เราก็เลยเพิ่มไซซ์ขึ้นมาให้เลย

 

จุดเริ่มต้น ที่มาขายอาร์เอ็นยาร์ด?

ลุงนันเล่าว่า “ มันเกิดจากวิกฤต ของโควิดเนี่ยแหละ เดิมเราขายที่โรงเรียน แล้วมันไม่มีช่องทางที่ให้เราทำมาหากินละ เราก็เลยมองไป ดูไปหลายตลาด แต่สุดท้ายมาถูกใจที่ตลาดอาร์เอ็นยาร์ด ลูกค้าเยอะ กำลังซื้อลูกค้าค่อนข้างโอเคเลยแหละ เราก็เลยได้เข้ามาติดต่อที่สำนักงานแล้วลงขาย...”

ลุงนันเล่าต่อว่า วันแรกที่เริ่มขาย ทำยอดได้ 1,000 บาท ก็ถือว่าเป็นที่พึงพอใจ แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่ายอดขาย คือได้เห็นลูกค้าที่กินแล้วกลับมาซื้อซ้ำ จุดนี้ทำให้ลุงนันเริ่มมองเห็นอนาคตของธุรกิจ ว่าคงไปได้สวยแน่ๆ จากนั้นจึงเพิ่มเตา เป็น 4 เตา เพื่อเพิ่มปริมาณเนยกรอบให้เพียงพอกับลูกค้า เพราะไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน  จนปัจจุบันได้แยกร้านเป็น 2 จุด ในตลาด อาร์เอ็นยาร์ด คือล็อก H01 และ D36 ฝั่งทางเข้า และทางออก เพื่อรองรับลูกค้า จากวันแรกที่ขายได้ 1 พันบาท มาวันนี้ ร้านเนยกรอบเจ๊เจียม ทำยอดได้มากกว่าวันละ 1 หมื่น

 

ทำไม? ถึงเลือกขายเนยกรอบ

ลุงนันเล่าว่า เดิมทีเคยขายโตเกียวหน้าโรงเรียนต่างๆในโคราชมาก่อน เด็กๆจะรู้จักกันดี จากนั้นจึงลองมาขายเนยกรอบ ที่เจ๊เจียมเป็นคิดค้นสูตรแป้ง เพราะ “ขนมเนยกรอบ” เป็นขนมซื้อเป็นของฝากได้ เก็บได้หลายวัน ลูกค้ารับไปได้เลยทีละ 300.- /  500.- ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าเป็นขนมโตเกียว ลุงนันขายชิ้นละ 10 บาท ลูกค้าต้องยืนรอ ซื้อไปฝากก็ไม่น่าจะอร่อย ลุงนันเลยมองเห็นจุดแข็งตรงนี้ ว่า “ขนมเนยกรอบ” จะเป็นสินค้าที่ช่วยเพิ่มยอดขายในทางร้านได้หลายเท่า

อยากขายดี...ต้องมีกลยุทธ์...

“ มีคนขายเนยกรอบเหมือนเราไหม...?  คำตอบคือ มี... แต่ทำไมลูกค้าต้องเลือกเนยกรอบเรา”

นี่คือโจทย์ ที่ลุงนันและครอบครัวตั้งขึ้นมา ก่อนที่จะมาเริ่มทำเนยกรอบขาย จากนั้นลุงนันก็เล่าว่า ต้องเริ่มจากการรู้จักคู่แข่ง  และได้ไปทดลองชิมเนยกรอบ แทบทุกร้านในโคราช ทำให้รู้ว่า รสชาติมาตรฐานทั่วไปจะประมาณไหน จุดเด่น จุดด้อยแต่ละร้านเป็นยังไง จากนั้นเจ๊เจียมจึงคิดค้นสูตรให้มีความแตกต่าง ทำแล้วต้องนำไปวางสลับถุงกับเนยกรอบร้านอื่นๆ แล้วให้คนมาสุ่มกินว่า เนยกรอบถุงไหน ของเจ๊เจียม เพราะสูตรของเจ๊เจียมต้องพิเศษ แตกต่างจนลูกค้าทั่วไปแยกออกได้ เพราะฉะนั้น ทั้งสูตรแป้ง ความหอม ความกรอบ ทุกอย่างคือเคล็ดลับสูตรเฉพาะของ “เจ๊เจียม”

เพิ่มยอดขายด้วยการรู้จักกลุ่มลูกค้า

“…คือเราทำการตลาดเกี่ยวกับกลุ่มเด็กเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้บริการได้ทั้งเด็ก ทั้งวัยรุ่น ทั้งคนมีอายุ เราจะเริ่มต้นที่ 10 กับ 20 จะสังเกตเลยว่าสินค้าเรา ไม่เน้นว่าจะต้องขายสูงๆ เด็กมีตังค์ 10.- กินได้ / 20.- กินได้ พอเราได้เข้าถึงลูกค้าปริมาณที่มาก ก็ทำให้สินค้าเราไหลลื่น ยอดขายจึงเพิ่มขึ้นตามลำดับ...” ลุงนันกล่าว

 

เพิ่มสินค้า...เพิ่มยอดขาย...ขยายฐานลูกค้า

พอเริ่มมีฐานลูกค้าเยอะขึ้น ก็ถึงเวลาที่จะเพิ่มสินค้า ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกันเพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้า จนปัจจุบัน ร้านเนยกรอบเจ๊เจียม มีทั้งเมนู ไก่ทอด ไก่กรอบ ไก่ชีส มันคอนโด ขนมไข่นกกระทา ราคาเริ่มต้นเพียง 10.- ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้เพิ่มขึ้น พอลูกค้าได้ลองชิม ก็ติดใจ และกลับมาซื้อซ้ำเรื่อยๆ

“..เนยกรอบจ้า เนยกรอบไหมจ๊ะ ร้อนๆเลย จะหมดแล้วน๊า 20.-/30.-/50.- เลือกได้ ชิมได้”
อีก 1 กลยุทธ์สำคัญที่ลุงนันบอกต่อ คือ การรู้จักเรียกลูกค้า ให้ลูกค้าใหม่ๆ ได้เข้ามาชิม ไม่ซื้อไม่เป็นไรแต่ขอให้ได้ชิม แล้ว ลูกค้าจะเป็นคนตัดสินใจว่า เขาควรจะซื้อ 20.- / 50.- หรือ 100.-  และหลายๆครั้ง หากลูกค้าได้ชิม จะขายได้มากกว่า 1 ถุงเพราะลูกค้ารับรู้แล้วว่า “อร่อย” แต่ถ้าเนยกรอบอยู่ในถุง ลูกค้าซื้อไปแล้ว กว่าจะรู้ว่า “อร่อย”ก็ออกจากตลาดไปแล่ว เพราะฉะนั้นขอแค่ลูกค้าได้ลองชิม บางคนมา 3 - 4 คน ให้ชิมหมดเลย แผ่นนึงตกแผ่นละ 2 บาท ไม่ว่ากัน ซื้อ 20.- ก็ให้ชิม 4 คน

และนี่ก็เป็นบทสัมภาษณ์ จากเจ้าของร้าน “เจ๊เจียมเนยกรอบ” ทำให้ได้ข้อคิดดีๆ คือ หากเรามีความตั้งใจ จริงจัง กับอาชีพที่เราทำ ก็เป็นเรื่องไม่ยาก ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ

ร้านเนยกรอบเจ๊เจียม เปิดทุกวันตั้งแต่ 16.00 - 21.00 น.

เพจ : เนยกรอบเจ๊เจียม เพจหลัก-นครราชสีมา

เบอร์โทรศัพท์ 09-8549-4224